Forex กับเทรนด์อาชีพใหม่ของนักลงทุน

การ เทรด forex

Forex กับเทรนด์อาชีพใหม่ของนักลงทุน

      เนื่องจากฟอเร็กซ์นั้นเป็นอาชีพที่มีช่องทางการศึกษา และมีกลุ่มออนไลน์ที่ให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือกันจำนวนมาก การเริ่มต้นลงทุน (Trade) ก็ใช้เงินลงทุนไม่มาก ประมาณ 3,000 บาท (ประมาณ 100$) การ เทรด forex ก็เริ่มต้นเทรดได้แล้ว ทั้งยังเทรดที่ไหนก็ได้ที่มี Internet และไม่จำกัดว่าจะเทรดผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ PC เท่านั้น การมีเพียงมือถือก็สามารถเทรดได้แล้ว เพราะมี application ที่ใช้เทรดผ่านมือถือได้ (แน่นอน การดูกราฟ ก็จะวิเคราะห์ยากกว่าเทรดผ่าน Notebook หรือ PC)
        การลงทุนในตลาด Forex เป็นที่สนใจกันอย่างมาก ด้วยความสะดวกในการเทรด มีกลุ่มคนที่เทรดเป็นเพื่อนจำนวนมาก ทำให้มีแหล่งความรู้ ตลอดจนมีคนมาช่วยตอบคำถามเวลาเจอปัญหาต่างๆ หากเทรดจนเชี่ยวชาญอัตรากำไรก็สูงกว่าการลงทุนในรูปแบบการออม ตลาด Forex เป็นตลาดการลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะโบรกเกอร์หรือตัวกลางในการเทรดนั้น จะต้องได้รับใบอนุญาตในการประกอบการ ทั้งยังทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งแตกต่างจากตลาดหุ้นที่สามารถทำกำไรได้เฉพาะขาขึ้น อีกทั้ง Forex ยังเทรดได้ 24 ชั่วโมง (หยุดในวันเสาร์และอาทิตย์เช่นเดียวกับตลาดอื่น ๆ ให้ได้พักหายใจ หรือพักใช้เงิน) เนื่องจากเวลาเปิดทำการของแต่ละตลาดนั้นจะมีความคาบเกี่ยวกันอยู่ ทำให้ตลาด Forex นั้นเป็นตลาดที่เปิดอยู่ตลอดเวลาในวันธรรมดา ก็จะมีบางช่วงเวลาที่กราฟเหวี่ยงตัวเคลื่อนตัวเร็วอันเป็นช่วงที่ Trader ชื่นชอบเนื่องจากตลาดเริ่มเปิดหมดแล้ว
        Forex ก็เป็นอาชีพ อาชีพหนึ่งที่คนที่จะประกอบอาชีพได้ก็ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในระดับลึกซึ้งพอ เหมือนหมอก็ต้องเรียนรู้โรค รู้ยา มากพอ ถึงจะรักษาโรคได้หายขาด เช่นเดียวกัน การ Trade Forex ก็ต้องศึกษาและฝึกฝนจนชำนาญจึงจะทำกำไรได้ อัตราได้มากกว่าอัตราเสีย (Win Rate สูง) จึงตอบได้ว่า “Forex จะดีหรือไม่ ทำกำไรได้จริงไหม ? เป็นอาชีพหรือการพนัน สิ่งเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับ Trader โดยตรงทั้งสิ้น ว่ามีความรู้ ตลาดจนทักษะมากพอหรือเปล่า เพราะก็มีคนไม่น้อยทำกำไร หรือยึด Forex เป็นอาชีพประจำได้ ไม่ต่างอะไรกับอาชีพการลงทุนอื่นๆ เช่น การลงทุนหุ้น การลงทุน crypto currency”

 

การเลือกโบรกเกอร์

น่าเสียดายที่ในประเทศไทยแม้การเทรด Forex จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่มีกฎหมายรองรับ ดังนั้นเมื่อมีกรณีพิพาทระหว่างผู้เทรดกับโบรกเกอร์ที่ส่วนใหญ่จดทะเบียนอยู่ต่างประเทศ กฎหมายไทยจึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เป็นความเสี่ยงที่ Trader ต้องบริหารจัดการเอง ดังนั้นการเลือกโบรกเกอร์ในการเทรด จึงจำเป็นต้องเลือกประเด็นต่างๆดังนี้

  1. เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต (License) ที่น่าเชื่อถือ, มีการเปิดมานาน เกิน 10 ได้ยิ่งดี เพราะการันตีในสถานภาพการเงิน การบริการ และความปลอดภัยของเงินของคุณ ว่าโบรกเกอร์จะไม่หอบเงินแล้วปิดโบรกหนีไปง่ายๆ
  2. ง่ายต่อการใช้งานมีบริการภาษาไทย ทั้งในเว็บ และ Support เพราะ Forex มักมีปัญหาซับซ้อนและมีรายละเอียดจุกจิกในหลายๆเรื่อง ขนาดคุยและมีข้อมูลเป็นภาษาไทยให้อ่าน ในบางเรื่องยังคุยกันยากเลย ถ้าเป็นภาษาต่างประเทศ หรือ support ที่เป็นชาวต่างชาติอาจจะยิ่งเข้าใจยากกันไปใหญ่
  3. Live chat และทีมตอบต้องเก่งบางโบรกถามอย่างตอบอีกอย่าง แก้ปัญหาให้เราไม่ได้
  4. ค่าบริการอันได้แก่ Spread Commission swap ควรจะสมราคาและควรไปในทางถูก ไม่แพงโอเวอร์เกินไป
  5. อยู่ให้ห่าง โบรกเกอร์ขี้โกงเช่น พวก แอบกินค่าบริการ แอบกินค่าเรทฝาก-ถอน เงื่อนไขการเทรดจุกจิก พอจะถอนเงินก็ระงับการถอนโดยอ้างว่าพบความผิดปกติในบัญชีที่ไปในทางการฟอกเงิน แบบนี้เป็นต้น
  6. ฝากถอน รวดเร็วฉับไวเพราะเอาเข้าจริงแล้ว มีหลายโบรกมากๆในตอนนี้ ที่ฝากแล้วเงินเข้าพอร์ตทันที ถอนเงินก็ไม่มีจุกจิก เงินเข้าบัญชีภายใน 5 นาที ซึ่งถ้าหากโบรอื่นๆทำได้ โบรกที่ถอนแล้วใช้เวลาข้ามวันกว่าจะได้เงินก็ไม่มีข้ออ้างที่ฟังขึ้น

อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้นไม่ใช่เฉพาะตลาด Forex การลงทุนอื่นก็เช่นกัน การศึกษาหาความรู้และฝึกฝนอยู่อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนหาระบบเทรดเป็นของตัวเองให้ได้ จะทำให้ Trader อยู่ในตลาดการเงินแห่งนี้ได้อย่างยั่งยืนและไม่เจ็บตัว ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการทำเป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลักได้ในอนาคต